data centre พลังน้ำของ facebook เปิดใหม่ในเขตอาร์กติกอันหนาวเหน็บ

ออฟฟิซของ data centre ใหม่ของ facebook ในเมือง Luleå

จากการสำรวจของกรีนพีช ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกนั้นใช้พลังงานสูงถึง 2% ของความต้องการพลังงานโลก และ cloud จะทำให้ความต้องการพลังงานในส่วนนี้พุ่งสูงขึ้นแบบเอ็กโปเน็นเชียล เพราะข้อมูลต่างๆจะถูก Process ให้เสร็จที่ data centre ทั้งหลาย

เหล่านักสิ่งแวดล้อมจึงกังวลเนื่องจากพลังงานไฟฟ้าที่ดาต้าเซ็นเตอร์ใช้ ส่วนใหญ่ผลิตจากพลังงานไม่สะอาดเช่นพลังงานฟอสซิล ซึ่งทำให้เกิด Global Warming ตามมา และ facebook หนึ่งใน data centre ที่ต้องการพลังงานสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกก็ถูกจับจ้องและกดดันโดยจากสังคมเช่นเดียวกัน (ก่อนหน้านี้ Google ซื้อพลังงานลมไว้แล้ว 20 ปี)

ในที่สุด data centre ใหม่ของ facebook ที่เมือง Lulea ประเทศสวีเดน ซึ่งอยู่ในภูมิอากาศหนาวจัดแบบ Sub-Arctic ก็เปิดใช้งานเมื่อเดือนที่แล้วครับ เพื่อรองรับการใช้งาน facebook ในฝั่งยุโรป และที่สำคัญ ใช้พลังไฟฟ้าจากน้ำ 100%

ภาพดาต้าเซ็นเตอร์ขณะกำลังก่อสร้าง จะเห็นว่าบริเวณรอบๆมีแต่หิมะครับ

Tom Furlong หัวหน้าฝ่ายดูแล data centre ของ facebook ทั่วโลกบอกสาเหตที่มาตั้ง data centre ที่นี่ไว้ว่า จะต้องมีแหล่งพลังงานที่มั่นคงเพียงพอและมี internet connectivity ที่ดี

บริเวณนี้มีแหล่งไฟฟ้าจากสอง Grid ที่แยกจากกัน และมีความมั่นคงทางพลังงานสูง
ไฟดับครั้งสุดท้ายเมื่อ 30 ปีที่แล้ว และปัจจุบันมีแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่มีศักยภาพและมีความยั่งยืนสูง
ที่แห่งนี้มี fiber optic สายหลักผ่าน

สำหรับประโยชน์ที่จะได้จากการตั้ง data centre ในที่ห่างไกลในอาร์กติกขนาดนี้ คือ การใช้พลังงานในระบบทำความเย็นต่ำมาก พัดลมในศูนย์แทบไม่ได้หมุนเลย เพราะมีลมหนาวแถบนี้ทั้งปีอยู่แล้ว และความร้อนจาก server ยังหมุนเวียนไปทำความร้อนให้สำนักงานอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพลังน้ำจากเขื่อนที่มีน้ำแข็งที่ละลายทุกปีเหลือเฟือ

ส่วนที่เสียเปรียบคือ ต้องลงทุนด้านความมั่นคงของ connectivity สูง เนื่องจากห่างเมืองทำให้มีโอกาสที่จะส่งข้อมูลได้ไม่เสถียรมากขึ้น จึงต้องมั่นใจระดับภูมิภาคด้วย ถ้าดูในเพจจะเห็นว่ามีนายกเทศมนตรีเมือง Lulea มาร่วมงานด้วยตั้งแต่ก่อสร้างแรกๆ จะเห็นได้ว่าไม่ใช่ว่าบริษัทไหนจะมาตั้งได้ง่ายๆ

ตอนนี้รับสมัคร System Administrator อยู่ด้วยนะครับ ดูได้ที่เพจ https://www.facebook.com/luleaDataCenter 😛