จากที่หลายประเทศ ต่างจับจ้องจะเข้ามาลงทุนสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศเวียดนามเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว มาถึงตอนนี้ค่อนข้างชัดเจนถึงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศเวียดนาม ถึงปี ค.ศ. 2030 ภายใต้การนำของนายกฯ Nguyen Tan Dung ที่อนุมัติเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 53 ให้สร้างทั้งหมด 8 แห่งโดยมีกำลังผลิตรวมประมาณ 15,000 – 16,000 MW ด้วยกัน
รัสเซียเป็นประเทศที่จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกให้กับเวียดนาม โดยจะตั้งอยู่ที่นินห์ถ่วน (Ninh Thuan) ซึ่งห่างจากประเทศไทยเราแค่ 900 km จากจังหวัดศรีสะเกษเท่านั้น!!!
Ninh Thuan1 ที่จะลงทุนโดยองค์กรของรัฐบาล Electricity of Vietnam (EVN) มีขนาด 1,000 MW ใช้เทคโนโลยี Pressured Water Reactor ซึ่งเมื่อมาดูกระบวนการของประเทศเวียดนามคือ จากประมาณการความต้องการใช้ไฟฟ้าเติบโตถึง 16% ทุกปีถึงปี 2015 เค้าจึงเริ่มอนุมัติแผนฯ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในปี 2007 หลังจากนั้นกลางปี 2008 ก็ได้ออกกฎหมายทั่วไปจนแล้วเสร็จ และได้ดำเนินการในกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปีที่แล้วรัฐสภาลงเสียงสนับสนุนถึง 77% เห็นชอบนำเสนอรัฐบาล ผ่านไป 7 เดือนนายกฯ อนุมัติแผนฯ ให้เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 2014 และเสร็จพร้อมจ่ายกระแสไฟฟ้า ในอีก 10 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ของเจ้าของเทคโนโลยีอย่างฝรั่งเศส กับประเทศในแถบ ASEAN ที่ล้มเหลวในการนำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เข้าใช้งานเพื่อจะแก้ไขวิกฤตน้ำมัน ก็คือประเทศฟิลิปปินส์ ที่เพิ่งจ่ายหนี้หมดไปเมื่อ ค.ศ. 2007 กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Baatanที่สร้างเสร็จแต่ไม่ได้ใช้ผลิตไฟฟ้าเลยสักหน่วยเดียว กว่า 30 ปีตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้า และผลพวงในเรื่องนี้ยังเป็นบทเรียนของประเทศฝรั่งเศสที่โดนฟ้องศาลระหว่างประเทศหลังจากนั้นมา จึงเป็นข้อควรระวังของบริษัทต่างๆ เช่น Westinghouse จากอเมริกา, Areva จากฝรั่งเศส, AtomStroyExport จากรัสเซีย และ Guangdong Nuclear Power Group จากประเทศจีน ที่กำลังพยายามเข้ามาตะครุบชิ้นเนื้อก้อนโตในประเทศเนื้อหอมอย่างเวียดนามทุกวันนี้
ตัวอย่าง ประเทศไทยที่มาพร้อมกับโชคช่วยหรืออย่างไร ที่สามารถแก้วิกฤตน้ำมันได้ด้วยการค้นพบก๊าซธรรมชาติอ่าวไทย จนวันนี้ ถึงคราวที่ต้องเผชิญกับการตัดสินใจด้วยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกรอบซะแล้ว!!!