Carbon Footprint จากตัวเราปล่อยมาเท่าไร?

ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHGs-Greenhouse Gases) ที่เกิดจากตัวเราหรือกิจกรรมใดใดเรียกว่า Carbon Footprint ที่ใช้ Carbon เป็นตัวแทนของ GHGs ก็เพื่อให้เรียกง่ายๆ และคิดเทียบว่า Gas ตัวนั้นๆ เป็นกี่เท่ากี่เท่าของ Carbon Dioxide หรือ Carbon Dioxide Equivalent นั่นเอง มีหน่วยเป็นตันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (tCO2) ทีนี้ก็เลยลองคำนวณดูจาก Carbon Calculator

Sign up กันไปเล้ย!!!
Sign up กันไปเล้ย!!!

ระหว่างใส่ข้อมูลเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ค่ะ
ระหว่างใส่ข้อมูลเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ค่ะ

โอ้โห!!! ไหงมากมายขนาดนี้ หรือว่าเราใส่อะไรผิดไปอ่ะเปล่า???
โอ้โห!!! ไหงมากมายขนาดนี้ หรือว่าเราใส่อะไรผิดไปอ่ะเปล่า???

อย่างไรก็ตาม การจุดประกายความคิดนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้า เนื่องจากว่า ลองคิดกันดูดีดีเนี่ยไฟฟ้าถูกผลิตมาเพื่อให้ทุกคนใช้ นั่นคือ ผู้ใช้ปลายทางที่ได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง แถมยังมีการคำนวณ Carbon Footprint ที่แต่ละคนปล่อยออกมาให้ดูอีกเหมือนกับจะเป็นการบอกใบ้ว่า ผู้ใช้้ไฟฟ้าย่อมมีสัดส่วนมากน้อยในการปล่อย Carbon จากกิจกรรมในชีวิตประจำวันนั่นเอง ดังนั้น ถ้าเรื่อง Carbon Tax จะถูกนำมาใช้ในอนาคต อย่างงี้บริษัทผลิตไฟฟ้าที่อยู่ในประเทศขายไฟอย่างเสรีก็คิดง่ายๆ คือ บวกเข้าไปกับค่าไฟที่ประชาชนจ่าย หรือในทางกลับกันถ้าลดการใช้ไฟฟ้าได้รัฐบาลก็ช่วยลดภาษีไห้ เช่น PG&E-Pacific Gas and Electric Company ผู้จำหน่ายไฟ้ฟ้าและ Natural Gas รายใหญ่ฝั่ง California ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รณรงค์โครงการประหยัดไฟฟ้าจากครัวเรือนตั้งแต่ปี 2550 พบว่า โดยเฉลี่ยแล้วเมื่อลูกค้าประหยัดไฟฟ้าได้จากที่ใช้จริง จะสามารถนำไปลดภาษีได้ตั้ง US$5 ต่อเดือน (2,000 กว่าบาทต่อปี) หลายๆ บริษัทในอุตสาหกรรมอื่นทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็น British Airways ที่รณรงค์โครงการภายใ้ต้ชื่อ Voluntary Passenger Carbon Offsetting มาตั้งแต่ปี 2548 หรือการบริจาคเพื่อปลูกป่าในออสเตรเลียเพื่อดูดซับ Carbon ที่เราปล่อยออกมา

แต่ที่น่าคิดไปกว่านั้นคือถ้าประเทศไหนผลิตไฟฟ้าแบบ Monopoly และผลิตเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ค่าใช้จ่าย ค่าชดเชยในเรื่องของสิ่งแวดล้อมจะตกเป็นภาระของใคร อันนี้ัรัฐบาลคงต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้าอย่างรัดกุมซะแล้ว+++